วันจันทร์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2552

Well Know port (Datacom)

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับ Port

สำหรับพวก Application ในชั้น layer สูงๆ ที่ใช้ TCP (Transmission Control Protocol) หรือ UDP (User Datagram Protocol) จะมีหมายเลข Port หมายเลขของ Port จะเป็นเลข 16 bit เริ่มตั้งแต่ 0 ถึง 65535 หมายเลข Port ใช้สำหรับตัดสินว่า service ใดที่ต้องการเรียกใช้ ในทางทฤษฎี หมายเลข Port แต่ละหมายเลขถูกเลือกสำหรับ service ใดๆ ขึ้นอยู่กับ OS (operating system) ที่ใช้ ไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน แต่ได้มีกำหนดขึ้นให้ใช้ค่อนข้างเป็นมาตรฐานเพื่อให้มีการติดต่อการส่งข้อมูลที่ดีขึ้น ทาง Internet Assigned Numbers Authority (IANA) เป็นหน่วยงานกลางในการประสานการเลือกใช้ Port ว่า Port หมายเลขใดควรเหมาะสำหรับ Service ใด และได้กำหนดใน Request For Comments (RFC') 1700 ตัวอย่างเช่น เลือกใช้ TCP Port หมายเลข 23 กับ Service Telnet และเลือกใช้ UDP Port หมายเลข 69 สำหรับ Service Trivial File transfer Protocol (TFTP) ตัวอย่างต่อไปนี้เป็นบางส่วนของ File/etc/services แสดงให้เห็นว่า หมายเลข Port แต่ละหมายเลขได้ถูกจับคู่กับ Transport Protocol หนึ่งหรือสอง Protocol ซึ่งหมายความว่า UPP หรือ TCP อาจจะใช้ หมายเลข Port เดียวกันก็ได้ เนื่องจากเป็น Protocol ที่ต่างกัน

หมายเลข Port ถูกจัดแบ่งเป็น 2 ประเภท ตามที่ได้กำหนดใน RFC' 1700
คือ well known Ports และ Registered Ports

- Well Known Ports คือจะเป็น Port ที่ระบบส่วนใหญ่ กำหนดให้ใช้โดย Privileged User (ผู้ใช้ที่มีสิทธิพิเศษ) โดย port เหล่านี้ ใช้สำหรับการติดต่อระหว่างเครื่องที่มีระบบเวลาที่ยาวนาน วัตถุประสงค์เพื่อให้ service แก่ผู้ใช้ (ที่ไม่รู้จักหรือคุ้นเคย) แปลกหน้า จึงจำเป็นต้องกำหนด Port ติดต่อสำหรับ Service นั้นๆ

- Registered Ports จะเป็น Port หมายเลข 1024 ขึ้นไป ซึ่ง IANA ไม่ได้กำหนดไว้

ตัวอย่างการใช้ Port
แต่ละ Transport layer segment จะมีส่วนย่อยที่ประกอบไปด้วยหมายเลข Port ของเครื่องปลายทาง โดยที่เครื่องปลายทาง (Destination hostt) จะใช้ Port นี้ในการส่งข้อมูลให้ไหลกับ Application ได้ถูกต้อง หน้าที่ในการส่งหรือแจกจ่าย Segment ของข้อมูลให้ตรงกับ Application เรียกว่าการ "Demultiplexing" ในทางกลับกันเครื่องต้นทาง (Source host) หน้าที่ในการรวบรวมข้อมูลจาก Application และเพิ่ม header เพื่อสร้าง segment เรียกว่า "Multiplexing" หรือถ้ายกตัวอย่างเป็นภาษาทั่วๆ ไป คือ ในแต่ละบ้านจะมีคน 1 คนรับผิดชอบเก็บจดหมายจากกล่องจดหมาย ถ้าเป็นการ Demultiplexing คนๆ นั้นจะแจกจ่ายจดหมายที่จ่าหน้าซองให้สอดคล้องกับบุคคลนั้นๆ ในบ้าน ในทางตรงกันข้าม ถ้าเป็นการ Multiplexing คนๆ นั้นก็จะรวบรวมจดหมายจากสมาชิกในบ้านและทำหน้าที่ส่งออกไป Demultiplexing ตามหมายเลข Port จะอยู่ใน 32 bit แรกของ TCP และ UDP header โดยที่ 16 bit แรกเป็นหมายเลข Port ของเครื่องต้นทาง ขณะที่ 16 bit ต่อมาเป็นหมายเลข Port ของ เครื่องปลายทางTCP หรือ UDP จะดูที่ข้อมูลหมายเลข Port ใน header เพื่อพิจารณาว่า Application ใดที่ต้องการข้อมูลนั้นๆ หมายเลข Port ทั้งต้นทางและปลายทางจำเป็นต้องมีเพื่อให้ เครื่องปลายทางมีความสามารถที่จะรัน process มากกว่า 1 process ในเวลาเดียวกันตามที่ได้กล่าวในข้างต้น "Well know Ports" เป็น Port ที่ค่อนข้างมาตรฐาน ทำให้เครื่องที่อยู่ไกลออกไป (Remote Computer) สามารถรู้ได้ว่าจะติดต่อกับทาง Port หมายเลขอะไรสำหรับ Service เฉพาะนั้นๆ อย่างไรก็ตามยังมี Port อีกประเภทที่เรียกว่า Dynamically Allocated Port ซึ่ง Port ประเภทนี้ไม่ได้ถูก assign ไว้แต่เดิม แต่จะถูก assign เมื่อจำเป็น Port ประเภทนี้ให้ความสะดวกและความคล่องตัวสำหรับระบบที่มีผู้ใช้หลายๆคนพร้อมๆคน ระบบจะต้องให้ความมั่นใจว่าจะไม่ assign หมายเลข Port ซ้ำกันยกตัวอย่าง สมมติว่ามีผู้ใช้ต้องการใช้ Service Telnet ทางเครื่องต้นทางจะทำการ assign ให้ หมายเลข Dynamic Port (เช่น 3044) โดยที่หมายเลข Port ปลายทางคือ 23 เครื่องจะ assign หมายเลข Port ปลายทางเป็น23 เพราะว่า เป็น Well Known Port สำหรับ Service Telnet จากนั้นเครื่องปลายทางจะทำการตอบรับกลับโดยใช้ Port หมายเลข 23 เป็นหมายเลขต้นทาง และ หมายเลข Port 3044 เป็นหมายเลข ปลายทางกลุ่มของหมายเลข Port และ หมายเลข IP เราเรียกว่า Socket ซึ่งจะเป็นตัวบ่งชี้ที่เฉพาะเจาะจงสำหรับ Network process หนึ่งเดียวที่มีอยู่ในทั้งระบบ Internet คู่ของ Socket ที่ประกอบด้วย Socket หนึ่งตัว สำหรับต้นทาง และอีกตัว สำหรับปลายทาง สามารถใช้บรรยายถึงคุณลักษณะของ Connection oriented protocols ถ้าผู้ใช้คนที่ 2 ต้องการใช้ Service Telnet จากเครื่องปลายทางเครื่องเดียวกัน ผู้ใช้นั้นก็จะได้รับการ assign หมายเลข Port ต้นทางที่แตกต่างกันออกไป โดยมีหมายเลข Port ปลายทางเหมือนกันกับผู้ใช้คนแรกดังรูปที่ 4 จะเห็นได้ว่าการจับคู่ของหมายเลข Port และหมายเลข IP ทั้งต้นทางและปลายทางสามารถทำให้แยกความแตกต่างของ Internet connection ระหว่างเครื่องต้นทางและเครื่องปลายทางได้Active และ Passive Portsสิ่งสุดท้ายที่จะต้องกล่าวถึงเกี่ยวกับ Port ก็คือ ความแตกต่างระหว่าง Active และ Passive Portในการใช้การติดต่อด้วย TCP สามารถกระทำได้ 2 วิธีคือ Passive และ Active Connection Passive connection คือ การติดต่อที่ Application process สั่งให้ TCP รอหมายเลข Port สำหรับการร้องขอการติดต่อจาก Source Host เมื่อ TCP ได้รับการร้องขอแล้วจึงทำการเลือกหมายเลข Port ให้ แต่ถ้าเป็นแบบ Active TCP ก็จะให้ Application process เป็นฝ่ายเลือกหมายเลข Port ให้เลย

ตัวอย่างโปรโตคอลในลำดับชั้นแอปพลิเคชั่น (Well - Known Prots)
Port number.....Service ...................Description
20 ........FTP(Data) .....File Transfer Protocol and Data Used for transferring files
21..FTP (Control) ..File Transfer Protocol and Control Used for transferring files
23..................TELNET ........... used to gain “remote control” over another Machine on the network
25..................SMTP .............Simple Mail Transfer Protocol, used for transferring e-mail between e-mail servers
69..................TFTP..............Trivial File Transfer Protocol, used for transferring Files without a secure login
80..............HTTP(World Wide Web) .....HyperText Transfer Protocol, use for transferring HTML (Web Pages)
110..POP3.Post Office Protocol, version3, used for transfening e-mail form and e-mail server to and e-mail client
119 ........NNTP ........Network News Transfer Protocol, used to transfer Usenet news group messages from a news server To a news reader program
137................... NETBIOS-NS ................Net BIOS Name Service, Used by Misrosoft Networking
138.................NETBIOS-DG.............NetBIOS Datagram Service,sed for transporting data by Microsoft Networking
139.........NETBIOS-SS....NetBIOS session Service,used by Microsoft Networking
161............SNMP..........Simple Network Management Protocol, used to monitor network devices remotely
443...............HTTPS .......................HyperText Transfe-Protocol, Secure

Well Know port (Datacom)

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับ Portสำหรับพวก Application ในชั้น layer สูงๆ ที่ใช้ TCP (Transmission Control Protocol) หรือ UDP (User Datagram Protocol) จะมีหมายเลข Port หมายเลขของ Port จะเป็นเลข 16 bit เริ่มตั้งแต่ 0 ถึง 65535 หมายเลข Port ใช้สำหรับตัดสินว่า service ใดที่ต้องการเรียกใช้ ในทางทฤษฎี หมายเลข Port แต่ละหมายเลขถูกเลือกสำหรับ service ใดๆ ขึ้นอยู่กับ OS (operating system) ที่ใช้ ไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน แต่ได้มีกำหนดขึ้นให้ใช้ค่อนข้างเป็นมาตรฐานเพื่อให้มีการติดต่อการส่งข้อมูลที่ดีขึ้น ทาง Internet Assigned Numbers Authority (IANA) เป็นหน่วยงานกลางในการประสานการเลือกใช้ Port ว่า Port หมายเลขใดควรเหมาะสำหรับ Service ใด และได้กำหนดใน Request For Comments (RFC') 1700 ตัวอย่างเช่น เลือกใช้ TCP Port หมายเลข 23 กับ Service Telnet และเลือกใช้ UDP Port หมายเลข 69 สำหรับ Service Trivial File transfer Protocol (TFTP) ตัวอย่างต่อไปนี้เป็นบางส่วนของ File/etc/services แสดงให้เห็นว่า หมายเลข Port แต่ละหมายเลขได้ถูกจับคู่กับ Transport Protocol หนึ่งหรือสอง Protocol ซึ่งหมายความว่า UPP หรือ TCP อาจจะใช้ หมายเลข Port เดียวกันก็ได้ เนื่องจากเป็น Protocol ที่ต่างกันหมายเลข Port ถูกจัดแบ่งเป็น 2 ประเภท ตามที่ได้กำหนดใน RFC' 1700 คือ well known Ports และ Registered Ports- Well Known Ports คือจะเป็น Port ที่ระบบส่วนใหญ่ กำหนดให้ใช้โดย Privileged User (ผู้ใช้ที่มีสิทธิพิเศษ) โดย port เหล่านี้ ใช้สำหรับการติดต่อระหว่างเครื่องที่มีระบบเวลาที่ยาวนาน วัตถุประสงค์เพื่อให้ service แก่ผู้ใช้ (ที่ไม่รู้จักหรือคุ้นเคย) แปลกหน้า จึงจำเป็นต้องกำหนด Port ติดต่อสำหรับ Service นั้นๆ- Registered Ports จะเป็น Port หมายเลข 1024 ขึ้นไป ซึ่ง IANA ไม่ได้กำหนดไว้ตัวอย่างการใช้ Portแต่ละ Transport layer segment จะมีส่วนย่อยที่ประกอบไปด้วยหมายเลข Port ของเครื่องปลายทาง โดยที่เครื่องปลายทาง (Destination hostt) จะใช้ Port นี้ในการส่งข้อมูลให้ไหลกับ Application ได้ถูกต้อง หน้าที่ในการส่งหรือแจกจ่าย Segment ของข้อมูลให้ตรงกับ Application เรียกว่าการ "Demultiplexing" ในทางกลับกันเครื่องต้นทาง (Source host) หน้าที่ในการรวบรวมข้อมูลจาก Application และเพิ่ม header เพื่อสร้าง segment เรียกว่า "Multiplexing" หรือถ้ายกตัวอย่างเป็นภาษาทั่วๆ ไป คือ ในแต่ละบ้านจะมีคน 1 คนรับผิดชอบเก็บจดหมายจากกล่องจดหมาย ถ้าเป็นการ Demultiplexing คนๆ นั้นจะแจกจ่ายจดหมายที่จ่าหน้าซองให้สอดคล้องกับบุคคลนั้นๆ ในบ้าน ในทางตรงกันข้าม ถ้าเป็นการ Multiplexing คนๆ นั้นก็จะรวบรวมจดหมายจากสมาชิกในบ้านและทำหน้าที่ส่งออกไป Demultiplexing ตามหมายเลข Port จะอยู่ใน 32 bit แรกของ TCP และ UDP header โดยที่ 16 bit แรกเป็นหมายเลข Port ของเครื่องต้นทาง ขณะที่ 16 bit ต่อมาเป็นหมายเลข Port ของ เครื่องปลายทางTCP หรือ UDP จะดูที่ข้อมูลหมายเลข Port ใน header เพื่อพิจารณาว่า Application ใดที่ต้องการข้อมูลนั้นๆ หมายเลข Port ทั้งต้นทางและปลายทางจำเป็นต้องมีเพื่อให้ เครื่องปลายทางมีความสามารถที่จะรัน process มากกว่า 1 process ในเวลาเดียวกันตามที่ได้กล่าวในข้างต้น "Well know Ports" เป็น Port ที่ค่อนข้างมาตรฐาน ทำให้เครื่องที่อยู่ไกลออกไป (Remote Computer) สามารถรู้ได้ว่าจะติดต่อกับทาง Port หมายเลขอะไรสำหรับ Service เฉพาะนั้นๆ อย่างไรก็ตามยังมี Port อีกประเภทที่เรียกว่า Dynamically Allocated Port ซึ่ง Port ประเภทนี้ไม่ได้ถูก assign ไว้แต่เดิม แต่จะถูก assign เมื่อจำเป็น Port ประเภทนี้ให้ความสะดวกและความคล่องตัวสำหรับระบบที่มีผู้ใช้หลายๆคนพร้อมๆคน ระบบจะต้องให้ความมั่นใจว่าจะไม่ assign หมายเลข Port ซ้ำกันยกตัวอย่าง สมมติว่ามีผู้ใช้ต้องการใช้ Service Telnet ทางเครื่องต้นทางจะทำการ assign ให้ หมายเลข Dynamic Port (เช่น 3044) โดยที่หมายเลข Port ปลายทางคือ 23 เครื่องจะ assign หมายเลข Port ปลายทางเป็น23 เพราะว่า เป็น Well Known Port สำหรับ Service Telnet จากนั้นเครื่องปลายทางจะทำการตอบรับกลับโดยใช้ Port หมายเลข 23 เป็นหมายเลขต้นทาง และ หมายเลข Port 3044 เป็นหมายเลข ปลายทางกลุ่มของหมายเลข Port และ หมายเลข IP เราเรียกว่า Socket ซึ่งจะเป็นตัวบ่งชี้ที่เฉพาะเจาะจงสำหรับ Network process หนึ่งเดียวที่มีอยู่ในทั้งระบบ Internet คู่ของ Socket ที่ประกอบด้วย Socket หนึ่งตัว สำหรับต้นทาง และอีกตัว สำหรับปลายทาง สามารถใช้บรรยายถึงคุณลักษณะของ Connection oriented protocols ถ้าผู้ใช้คนที่ 2 ต้องการใช้ Service Telnet จากเครื่องปลายทางเครื่องเดียวกัน ผู้ใช้นั้นก็จะได้รับการ assign หมายเลข Port ต้นทางที่แตกต่างกันออกไป โดยมีหมายเลข Port ปลายทางเหมือนกันกับผู้ใช้คนแรกดังรูปที่ 4 จะเห็นได้ว่าการจับคู่ของหมายเลข Port และหมายเลข IP ทั้งต้นทางและปลายทางสามารถทำให้แยกความแตกต่างของ Internet connection ระหว่างเครื่องต้นทางและเครื่องปลายทางได้Active และ Passive Portsสิ่งสุดท้ายที่จะต้องกล่าวถึงเกี่ยวกับ Port ก็คือ ความแตกต่างระหว่าง Active และ Passive Portในการใช้การติดต่อด้วย TCP สามารถกระทำได้ 2 วิธีคือ Passive และ Active Connection Passive connection คือ การติดต่อที่ Application process สั่งให้ TCP รอหมายเลข Port สำหรับการร้องขอการติดต่อจาก Source Host เมื่อ TCP ได้รับการร้องขอแล้วจึงทำการเลือกหมายเลข Port ให้ แต่ถ้าเป็นแบบ Active TCP ก็จะให้ Application process เป็นฝ่ายเลือกหมายเลข Port ให้เลย
ตัวอย่างโปรโตคอลในลำดับชั้นแอปพลิเคชั่น (Well - Known Prots)
Port number.....Service ...................Description
20 ........FTP(Data) .....File Transfer Protocol and Data Used for transferring files
21..FTP (Control) ..File Transfer Protocol and Control Used for transferring files
23..................TELNET ........... used to gain “remote control” over another Machine on the network
25..................SMTP .............Simple Mail Transfer Protocol, used for transferring e-mail between e-mail servers
69..................TFTP..............Trivial File Transfer Protocol, used for transferring Files without a secure login
80..............HTTP(World Wide Web) .....HyperText Transfer Protocol, use for transferring HTML (Web Pages)
110..POP3.Post Office Protocol, version3, used for transfening e-mail form and e-mail server to and e-mail client
119 ........NNTP ........Network News Transfer Protocol, used to transfer Usenet news group messages from a news server To a news reader program
137................... NETBIOS-NS ................Net BIOS Name Service, Used by Misrosoft Networking
138.................NETBIOS-DG.............NetBIOS Datagram Service,sed for transporting data by Microsoft Networking
139.........NETBIOS-SS....NetBIOS session Service,used by Microsoft Networking
161............SNMP..........Simple Network Management Protocol, used to monitor network devices remotely
443...............HTTPS .......................HyperText Transfe-Protocol, Secure
/26.........255.255.255.192..........2^2=4...............และ 2^6=64
11111111.11111111.11111111.11000000

บิต...เลขฐานสอง......Network ID...Broadcast...IPUsage
0......00000000.........0................63..............1-62
1......00000001.........64.............127...........65-126
2......00000010........128............191..........129-190
3......00000011.........192...........255..........193254

...........................................................................................


/27.......255.255.255.224........2^3=8..........และ 2^5=32
11111111.11111111.11111111.11100000

บิต.....เลขฐานสอง......Network ID.....Broadcast......IP Usage
0........00000000..............0.............31....................1-30
1.........00000001.............32............63...................33-62
2.........00000010.............64............95...................65-94
3.........00000011.............96...........127..................97-126
4.........00000100............128..........159...............129-158
5.........00000101.............160.........191................161-190
6.........00000110.............192.........223................193-222
7..........00000111.............224.........256...............225255

...........................................................................................

/28.........255.255.255.240 = 2^4 =16 และ 2^4=16
11111111.11111111.11111111.11110000

บิต...เลขฐานสอง ....Network ID......broad cast....IP Usage
0....00000000.........0...........................15...............1-14
1....00000001........16..........................31.............17-30
2....00000010........32.........................63.............33-62
3....00000011.........64..........................79.............65-78
4....00000100.......80..........................95.............81-94
5....00000101.........96........................127.............97-126
6....00000110........128.......................159...........129-158
7....00000111........160.......................191...........160-190
8....00001000.......192.......................207...........193-206
9....00001001.......208.......................223...........209-222
10..00001010.......224.......................239...........225-238
11..00001011........240.......................255...........241-254
12..00001100.......256........................271...........257-270
13..00001101........272........................287..........273-286
14...00001110.......288........................303.........289-302
15...00001111........304........................319..........305318


................................................................................................

/29.......255.255.255.248=2^5=32และ 2^3=8
11111111.11111111.11111111.11111000

บิต....เลขฐานสอง......Network ID........Brodcast....IP Usage
0.....00000000.........0........................7..................1 -6
1.....00000001.........8.......................15.................9-14
2.....00000010.........16.....................23.................17-22
3.....00000011.........24.....................31.................25-30
4.....00000100.........32.....................39.................33-38
5.....00000101.........40.....................47.................41-46
6.....00000110.........48.....................55.................49-54
7.....00000111.........56.....................63.................57-62
8.....00001000.........64.....................71.................65-70
9.....00001001.........72.....................79.................73-78
10...00001010.........80.....................87................. 81-86
11...00001011.........88.....................95.................89-94
12...00001100.........96.....................103...............97-102
13...00001101........104....................111...............105-110
14...00001110........112....................119...............113-118
15...00001111........120....................127...............121-126
16...00010000........128....................135...............129-134
17...00010001........136....................143...............137-142
18...00010010........144....................151...............145-150
19...00010011........152....................159...............153-158
20...00010100........160....................167...............161-166
21...00010101........168....................175...............169-174
22...00010110........176....................183...............177-182
23...00010111........184....................191...............185-190
24...00011000........192....................199...............193-198
25...00011001........200....................207...............201-206
26...00011010........208....................215...............209-214
27...00011011........216....................223...............217-222
28...00011100........224....................231...............225-230
29...00011101........232....................239...............233-240
30...00011110........240....................247...............241-248
31...00011111........248....................255...............249256

................................................................................................

/30.......255.255.255.252=2^6=64 และ 2^2=4
11111111.11111111.11111111.11111100

บิต....เลขฐานสอง........Network ID........Broadcast....IP Usage
0......00000000...............0............................3................12
1.......00000001...............4............................7................5-6
2.......00000010...............8...........................11...............9-10
3.......00000011..............12..........................15...............13-14
4.......00000100..............16.........................19...............17-18
5.......00000101...............20........................23...............21-22
6.......00000110...............24........................27...............25-26
7.......00000111................28........................31...............29-30
8......00001000................32........................35...............33-34
9......00001001.................36.......................39................37-38
10....00001010.................40.......................43................41-42
11....00001011..................44.......................47.................45-46
12....00001100.................48.......................51.................49-50
13....00001101..................52.......................55.................53-54
14....00001110..................56.......................59..................57-58
15....00001111..................60.......................63..................61-62
16....00010000................64.......................67...................65-66
17....00010001.................68.......................71...................69-70
18....00010010.................72.......................75...................73-74
19....00010011.................76.......................79....................77-78
20...00010100.................80......................83....................81-82
21....00010101.................84......................87....................85-86
22....00010110................88.......................91....................89-90
23....00010111.................92......................95....................93-94
24....00011000................96......................99....................97-98
25....00011001...............100....................103.................101-102
26....00011010...............104....................107.................105-106
27....00011011................108....................111.................109-110
28....00011100...............112.....................115.................113-114
29....00011101...............116......................119.................117-118
30....00011110...............120.....................123.................121-122
31.....00011111...............124.....................127..................125-126
32....00100000..............128.....................131..................129-130
33....00100001...............132....................135..................133-134
34....00100010...............136....................139..................137-138
35....00100011................140...................143..................141-142
36....00100100...............144....................147..................145-146
37....00100101................148....................151..................149-150
38....00100110................152....................155..................153-154
39....00100111................156....................159...................157-158
40....00101000..............160....................163...................161-162
41....00101001...............164....................167...................165-166
42....00101010...............168....................171...................169-170
43....00101011................172....................175...................173-174
44....00101100................176...................179...................177-178
45....00101101................180...................183...................181-182
46....00101110................184...................187...................185-186
47....00101111................188...................191....................189-190
48....00110000..............192...................195....................193-194
49....00110001..............196...................199.....................197-198
50....00110010.............200...................203....................201-202
51.....00110011.............204...................207....................205-206
52.....00110100............208....................211....................209-210
53.....00110101.............212....................215....................213-214
54.....00110110.............216....................219....................217-218
55.....00110111.............220....................223....................221-222
56.....00111000............224....................227....................225-226
57.....00111001.............228....................231....................229-230
58.....00111010.............232....................235...................233-234
59.....00111011.............236....................239....................237-238
60.....00111100.............240....................243...................241-242
61......00111101.............244....................247...................245-246
62......00111110.............248....................251...................249-250
63......00111111..............252...................255...................253254

....................................................................................................................

ข้อสอบ บทที่ 7 (Dataocmm)

แบบข้อสอบบทที่ 7 การบริหารเครือข่ายและการตรวจซ่อมระบบวิชา ระบบการสื่อสารข้อมูล (4123702)1. ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการเชื่อมต่อในระดับชั้น Physical ได้แก่ข้อใด
ก. ปัญหาจาก LAN Card บกพร่อง
ข. ปัญหา Connector ชำรุด.
ค. ปัญหา Hub ไม่ทำงาน
ง. ปัญหาเกี่ยวกับอุปกรณ์ Transceiver

2. ข้อใดเป็นปัญหาการเชื่อมต่อในระดับชั้น Network
ก. ปัญหาไอพีแอดเดรส ชนกัน
ข. ปัญหาเกี่ยวกับ Routing
ค. ปัญหาเกี่ยวกับ Ethernet Interface อื่น ๆ
ง. ข้อ ก และ ข ถูก.

3. ปัญหาในระดับชั้นใดเป็นปัญหาระหว่าง Client กับ Server
ก. Transport
ข. Network
ค. Session.
ง. Application

4. ปัญหาเกี่ยวกับประสิทธิภาพของเครือข่ายได้แก่ข้อใด
ก. การตอบสนองของเครือข่ายช้ามาก
ข. การให้บริการของ Server บนเครือข่ายช้ามาก
ค. การเชื่อมต่อสื่อสารผ่าน WAN ช้ามาก
ง. ถูกทุกข้อ.

5. การให้บริการของ Server ช้ามากเกิดจากสาเหตุใด
ก. เซิร์ฟเวอร์เกิดปัญหาคอขวด
ข. ปัญหาเกี่ยวกับการทำ Encapsulation ของ Frame ที่ไม่สมบูรณ์
ค. หน่วยความจำของเครื่อง Server มีไม่เพียงพอ.
ง. การจัด Configuration ของ Driver เกี่ยวกับ LAN Card ไม่ถูกต้อง

6. Database Server จัดอยู่ใน Server ประเภทใด
ก. Department Server
ข. Enterprise Server.
ค. Super Server
ง. Network Server

7. เครื่อง Server ประจำองค์กรหลายตัวที่ใช้ทรัพยากรร่วมกันได้แก่ Server ประเภทใด
ก. Network Server
ข. Super Server.
ค. Enterprise Server
ง. Web Application Server

8. ข้อใดเป็นการแก้ปัญหาคอขวดเบื้องต้นของเครื่อง Server
ก. หลีกเลี่ยงการพ่วง Hub หลายตัวเพื่อติดต่อกับ Server ตัวเดียว
ข. เปอร์เซนต์การใช้งานซีพียูบนเครื่อง Server ต้องมีไม่เกิน 70%
ค. ค่าเฉลี่ยของคิวที่ผู้ใช้งานต้องไม่ยาวหรือค้างนานเกินไป
ง. ถูกทุกข้อ.

9. Mode การทำงานของ Switching Hub ใด ที่อ่านข้อมูลไม่ครบทุกไบต์
ก. Store and Forward
ข. Cut Through
ค. Fragment Free.
ง. ไม่มีข้อใดถูก

10. ระบบเครือข่ายจะมี Broadcast เป็นองค์ประกอบแต่การมี Broadcast จะมีผลเสียคือข้อใด
ก. การสูญเสียพื้นที่
ข. Broadcast ไม่สามารถรู้เบอร์ MAC Address ระหว่างกันได้
ค. การสูญเสีย Bandwidth ที่ไม่มีความจำเป็น.
ง. Broadcast ไม่สามารถสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์บนเครือข่ายที่ไม่รู้จักกันได้

ข้อสอบ บทที่ 6 (Dataocmm)

แบบข้อสอบบทที่ 6 การออกแบบระบบเครือข่าย และ การจัดการระบบวิชา ระบบการสื่อสารข้อมูล (4123702)
1. การแบ่งเครือข่ายออกเป็นส่วน ๆ (Segmentation) จะใช้อุปกรณ์ชนิดใด
ก. Switch
ข. Hubค. Bridge.
ง. Card

2. MAC Address มีขนาดกี่บิต
ก. 18 บิต
ข. 24 บิต
ค. 36 บิต
ง. 48 บิต.

3. ระบบปฏิบัติการ UNIX ใช้โปรโตคอลสื่อสารชนิดใดเพื่อติดต่อกันบนเครือข่าย
ก. IPX/SPX
ข. NetBIOS
ค. NETBUEI
ง. TCP/IP.

4. Bridge จะอาศัยการสื่อสารของโปรโตคอลต่างๆ เพื่อการจัดสร้างและ updateตาราง SAT เป็นระยะและสม่ำเสมอ เรียกกระบวนการนี้ว่าอะไร
ก. Self-Learning.
ข. Flooding
ค. Filteing
ง. Forwarding

5. ข้อใดเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของ Switches
ก. Input Controller
ข. Output Controller
ค. Control Process
ง. ถูกทุกข้อ.

6. ชิ้นงานใดต่อไปนี้ ไม่อยู่ใน Control Process
ก. Transmission Process
ข. Flow Control Process
ค. Switching Process.
ง. Learning Process

7. Wire Speed หมายถึงข้อใด
ก. ระยะทางไกลสุดในการส่งสายสัญญาณ
ข. อัตราความเร็วสูงสุดของการรับ Frame ของข้อมูล
ค. อัตราความเร็วสูงสุดของการส่ง Frame ของข้อมูล
ง. อัตราความเร็วสูงสุดของการรับส่ง Frame ของข้อมูล.

8. Layer-2 Switching Hub มีหลักการทำงานเหมือนอุปกรณ์ชนิดใด
ก. Router
ข. Bridge.
ค. Hub
ง. Switch

9. Layer-4 Switching ของ OSI Model จัดอยู่ในระดับชั้นใด
ก. Physical
ข. Application
ค. Transport.
ง. Data Link

10. การเชื่อมต่อแบบ Full Duplex มีผลดีอย่างไร
ก. มีความเร็วในการรับส่งข้อมูลมากขึ้น.
ข. จำนวนข้อมูลที่ส่งออกไปถึงจุดหมายแน่นอนและครบถ้วน
ค. อัตราการหน่วงลดน้อยลง
ง. อัตราการหน่วงเพิ่มมากขึ้น

ข้อสอบ บทที่ 5 (Dataocmm)

แบบข้อสอบบทที่ 5 TCP/IP หัวใจของการสื่อสารวิชา ระบบการสื่อสารข้อมูล (4123702)
1. ส่วนประกอบสำคัญของอินเทอร์เน็ตโพรโตคอล คือข้อใด
ก. IP Address.
ข. Network
ค. Host
ง. Application

2. หน่วยงานที่กำกับดูแล IP Address ในประเทศไทยคือใคร
ก. dopa.net
ข. thnic.net.
ค. NAT
ง. IETF

3. อินเทอร์เน็ตโพรโตคอลรุ่นใหม่ล่าสุดคืออะไร
ก. IPV4
ข. IPV5
ค. IPV6.
ง. IPV7

4. Internet Protocol version 6 (IPV6) กำหนด IP Address กี่บิต
ก. 16 บิต
ข. 32 บิต
ค. 64 บิต
ง. 128 บิต.

5. ข้อใดเป็นตัวอย่างของการถูกออกแบบมาให้ IPV6 สามารถทำงานในเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพต่ำได้
ก. Gigabit Ethernet
ข. Wireless network.
ค. OC-12
ง. ATM

6. อินเทอร์เน็ตโพรโตคอลรุ่นที่ 6 ถูกพัฒนาขึ้นโดยใคร
ก. IPAE
ข. SIP
ค. TUBA
ง. IETF.

7. ด้วยความสามารถของ IPV6 สามารถนำมาใช้ในระบบปฏิบัติการต่าง ๆ ยกเว้นข้อใด
ก. Sun Solaris
ข. Linux
ค. Windows 2000
ง. Dos.

8. ข้อต่อไปนี้ข้อใดเป็นตำแหน่งที่เพิ่มขึ้นในส่วนของ Header ของ IPV6
ก. Header Checksum
ข. Protocol
ค. Flow Label.
ง. Time-To-Live

9. IPV6 ใช้เครื่องหมายใดเป็นตัวคั่นระหว่างเลขฐานสิบหกที่ถูกแบ่งข้อมูลออกเป็น 8 ชุด ๆ ละ 16 บิต
ก. “.”
ข. “:” .
ค. “;”
ง. “_”

10. เนื่องจาก IPV6 ไม่สามารถกรองหรือ บล็อกการจราจรได้ ดังนั้นมีวิธีใดบ้างที่จะป้องกันการดักข้อมูลของเครือข่ายอื่นได้
ก. ใช้ซอฟต์แวร์ไฟล์วอลล์มาป้องกัน.
ข. ไม่ให้มีบุคคลแปลกปลอมเข้ามาใช้เครือข่ายภายใน
ค. ตรวจเช็คดูว่าไม่มีเครื่องผู้อื่นเข้ามาในเครือข่ายกายภาพ
ง. ตรวจเช็คให้แน่ใจว่า IPV6 ไม่เป็นการติดต่อระหว่างเครื่องที่มีการข้าม Router

ข้อสอบ บทที่ 4 (Dataocmm)

แบบข้อสอบบทที่ 4 เครือข่ายอีเทอร์เน็ต หรือ IEEE 802.3วิชา ระบบการสื่อสารข้อมูล (4123702)
1. Ethernet พัฒนาขึ้นโดยใคร
ก. Fuji
ข. Xerox.
ค. Exrox
ง. Carrier

2. Ethernet ใช้เครือข่ายที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของมาตรฐานใด
ก. EIA
ข. CCITT
ค. IEE
ง. IEE 802.3.

3. รูปแบบการเชื่อมต่อบนอีเทอร์เน็ตแลนแบบใด ที่ทนทานต่อการถูกรบกวนได้เป็นอย่างดี
ก. 10 Base 5
ข. 10 Base 2
ค. 10 Base –T
ง. 10 Base –F.

4. รูปแบบการเชื่อมต่อ 10 Base –T : 10 ในที่นี้หมายถึงอะไร
ก. อัตราความเร็วในการส่งข้อมูลเท่ากับ 10 Mbps.
ข. อัตราความเร่งในการส่งข้อมูลเท่ากับ 10 Mbps
ค. ระยะเวลาที่ใช้ในการรอส่งข้อมูลเท่ากับ 10 วินาที
ง. ระยะทางในการส่งข้อมูลเท่ากับ 10 Mbps

5. Fast Ethernet ใช้โทโปโลยีแบบใด
ก. Star.
ข. Ring
ค. Bus
ง. CAT

6. สายสัญญาณ UTP ชนิดใดเหมาะที่สุดสำหรับ Fast Ethernet
ก. CAT2
ข. CAT3
ค. CAT5
ง. CAT5e.

7. มาตรฐานใดต่อไปนี้ ที่ไม่สามารถรองรับการทำงานที่ 100 Mbps ได้
ก. 100 Base-TX
ข. 100 Base-FX
ค. 10 Base-T.
ง. 100 Base-T4

8. มาตรฐานแบบ 100 Base-TX มีความถี่ทางไฟฟ้าเท่าใด
ก. 20 MHZ
ข. 100 MHZ
ค. 125 MHZ.
ง. 150 MHZ

9. มาตรฐานแบบ 100 Base-T2 ใช้วิธีการเข้ารหัสแบบใด
ก. PAM5x5.
ข. 8B/6T
ค. 4B/5B
ง. Manchester

10. Gigabit Ethernet ถูกออกแบบขึ้นมาให้เป็นไปตามมาตรฐานใด
ก. IEEE 802
ข. IEEE 802.3
ค. IEEE 802.5
ง. IEEE 802.3z.

ข้อสอบ บทที่ 3 (Dataocmm)

แบบข้อสอบบทที่ 3 อุปกรณ์เครือข่าย และ สื่อนำสัญญาณวิชา ระบบการสื่อสารข้อมูล (4123702)
1. อุปกรณ์ที่ใช้ในการรวมข้อมูลจากเครื่องเทอร์มินัลเข้าด้วยกัน เรียกว่าอะไร
ก. Mux.
ข. Repeater
ค. Bridge
ง. Switch

2. ข้อใดเป็นคุณสมบัติเด่นของคอนเซนเตรเตอร์
ก. มีหน่วยความจำ
ข. มีการบับอัดข้อมูล
ค. ถูกทั้งสองข้อ.
ง. ผิดทั้งสองข้อ

3. Hub เป็นอุปกรณ์ที่นิยมใช้ในระบบเครือข่าย ที่ใช้โทโปโลยีแบบใด
ก. Star.
ข. Ring
ค. Bus
ง. CSMA/CD

4. ข้อใดเป็นอุปกรณ์เชื่อมต่อเครือข่าย
ก. Repeater
ข. Bridge
ค. Switch
ง. ถูกทุกข้อ.

5. Repeater เป็นอุปกรณ์ที่ทำงานอยู่ในระดับใด ใน OSI Model
ก. Applicationข. Transport
ค. Physical.
ง. Net work

6. ข้อใดเป็นหน้าที่ของ Bridge
ก. กรองสัญญาณ และส่งผ่านแพ็กเกจข้อมูลไปยังส่วนต่าง ๆ.
ข. เชื่อมต่อสัญญาณให้กับเครือข่ายให้ไกลออกไปได้กว่าปกติ
ค. เชื่อมต่อเครือข่ายหลาย ๆ เครือข่ายเข้าด้วยกัน
ง. หาเส้นทางการส่งข้อมูลที่เหมาะสมให้โดยอัตโนมัติ

7. สายสัญญาณที่ใช้ในเครือข่ายคอมพิวเตอร์ได้แก่ข้อใด
ก. สายโคแอ็กช์เชียล
ข. สายคู่บิดเกลียว
ค. สายใยแก้วนำแสง
ง. ถูกทุกข้อ.

8. สายโคแอ็กซ์ แบบหนาสามารถนำสัญญาณได้ไกลด้วยระยะทางเท่าใด
ก. 300 เมตร
ข. 400 เมตร
ค. 500 เมตร.
ง. 600 เมตร

9. ในการใช้สายคู่บิดเกลียว UTP เป็นที่นิยมในเครือข่ายคอมพิวเตอร์ปัจจุบัน แต่มีข้อแม้ว่าในการใช้สายนั้นต้องมีความยาวไม่เกินเท่าใด
ก. 50 เมตร
ข. 80 เมตร
ค. 100 เมตร.
ง. 200 เมตร

10. สายใยแก้วนำแสงมี ตัวกลางที่ใช้สำหรับการส่งสัญญาณแสง คืออะไร
ก. Fiber Optic.
ข. Fiber Glass
ค. Fiber scope
ง. Cladding

ข้อสอบ บทที่ 2 (Dataocmm)

แบบข้อสอบบทที่ 2 โปรโตคอลมาตรฐาน และรูปแบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์วิชา ระบบการสื่อสารข้อมูล (4123702)
1. ข้อต่อไปนี้เป็นองค์กรสำหรับพัฒนาและควบคุมมาตรฐานสากล ยกเว้นข้อใด
ก. ISO
ข. OSI.
ค. IEEE
ง. EIA

2. มาตรฐานสากลใดที่ใช้สำหรับวงจรโทรศัพท์ และโมเด็ม
ก. ISO
ข. CCITT.
ค. ANSI
ง. IEEE

3. มาตรฐาน V และ X เป็นมาตรฐานที่ถูกพัฒนาขึ้นมาโดยองค์กรสากลใด
ก. CCITT.
ข. ISO
ค. IEEE
ง. EIA

4. หน่วยงานที่กำหนดมาตรฐาน ISO คือหน่วยงานใด
ก. ISO
ข. OSI.
ค. IEEE
ง. ANSI

5. มาตรฐานในการสื่อสารข้อมูล (OSI) มีระดับชั้นของการสื่อสารข้อมูลกี่ชั้น
ก. 4
ข. 5
ค. 6
ง. 7.

6. Layer ใดที่ทำหน้าที่อำนวยการ การส่งข้อมูลเข้าระดับเครือข่ายสื่อสารโดยปราศจากข้อผิดพลาด
ก. Physical Layer
ข. Data Link Layer.
ค. Network Layer
ง. Transport Layer

7. Layer ใดที่ทำหน้าที่แปลงข้อมูลให้อยู่ในรูปของแอสกี
ก. Application Layer
ข. Presentation Layer.
ค. Session Layer
ง. Transport Layer

8. ระดับชั้นใดที่แบ่งการทำงานเป็น 2 ชั้นย่อย คือ LIC และ MAC
ก. Physical
ข. Data Link.
ค. Network
ง. Transport

9. กลุ่มของ TCP/IP กลุ่มใดมีหน้าที่พิจารณาเส้นทางที่ดีที่สุดที่ใช้ส่งข้อมูล
ก. Transport Protocol
ข. Transmission Control Protocol
ค. User Datagram Protocol
ง. Routing Protocol.

10. Protocol ใด ที่ให้บริการแบบ Connection Service
ก. TCP
ข. UDP.
ค. IP
ง. RIP

11. Protocol ชนิดใดเปรียบเสมือนการส่งไปรษณีย์
ก. TCP
ข. UDP.
ค. IP
ง. RIP

12. ข้อใดไม่ใช่รูปแบบของโทโปโลยี
ก. Star
ข. Bus
ค. Broadcast.
ง. Ring

13. โทโปโลยีแบบ Star มีสถานีศูนย์กลางทำหน้าที่เป็นตัวสวิตชิ่ง เรียกว่าอะไร
ก. HUB.
ข. NTU
ค. ROUTER
ง. ไม่มีข้อใดถูก

4. ที่ปลายทั้งสองด้านของบัส มีเทอร์มิเนเตอร์ มีหน้าที่อะไร
ก. ตรวจสอบข้อมูลที่จะเข้าสู่บัส
ข. ตรวจสอบสัญญาณข้อมูลจากโหนดผู้ส่ง
ค. ดูดกลืนสัญญาณ.
ง. ควบคุมดูแลการทำงานของโหนด

15. โปรโตคอลชนิดใดที่ใช้กับช่องทางสื่อสารแบบสล็อต
ก. 1-persistant CSMA/CD
ข. Non-persistant CSMA/CD
ค. p-persistant CSMA/CD.
ง. CSMA/CA